วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 กรม ทช. โดยสำนักงาน ทช.ที่6 (พังงา) ร่วมกับศอปล. 7,8 จนท.ศบปล.ระนอง จนท.ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. จนท.ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองระนอง จนท.ทหาร ชป.กะเปอร์ ร้อย ร.2521 ได้สนธิกำลังร่วมกันดำเนินการตรวจสอบตามคำร้องเรียนว่ามีการบุกรุก ถมดิน ปรับพื้นที่ป่าชายเลน ในท้องที่ ม.2 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง จากการตรวจสอบพบมีการใช้รถไถปรับถมพื้นที่ มีคนงานชาวเมียนมาร์ จำนวน 3 คน อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการหาค่าพิกัด และคำนวณเนื้อที่แล้ว ปรากฏว่า มีเนื้อที่ 0-2-76 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย และเป็นพื้นที่ชายเลนตามมติครม. เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 และ 22 สิงหาคม 2543 คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่า เป็นการกระทำดังกล่าว มิชอบด้วยกฎหมาย มีความผิดตามพ.ร.บ. พ.ศ.2507 มาตรา14 ฐานยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่ป่าสงวนแห่งชาติและเป็นป่าชายเลน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานก่อสร้าง แผ้วถ่าง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า ทำประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เกิดความค่าเสียหายภาครัฐ 81,647.70 บาท คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกตรวจยึด/จับกุม และมอบให้นายกลยุทธ ทองดีเพ็ง นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 6 (เมือง ระนอง) นำเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระนอง เพื่อดำเนินคดีกับคนงานชาวเมียนมาร์ แล้ว ตาม ปจว.ข้อ 7 คดีอาญาที่ 458/2566 เวลา 15.47 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2566
ตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่าชายเลน พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี
พบร่องรอยของเครื่องจักรกลใหญ่ในพื้นที่ป่าชายเลน ท้องที่ ม.4 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี
11 กันยายน 2567