วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 กรม ทช. โดยศูนย์วิจัยฯ อันดามันตอนล่าง ได้รับแจ้งจากนายกฤษณะ ผ่องศรี เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง เรื่องพบพะยูนมีชีวิตถูกเชือกลอบปูพันรัดที่บริเวณโคนหาง ว่ายน้ำอยู่บริเวณแหลมจูโหย ในเขตพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ เพื่อตรวจสอบและติดตามช่วยเหลือพะยูนตัวดังกล่าว โดยเรือยางขนาดเล็กและเรือพาดหางยาว จำนวนทั้งสิ้น 4 ลำ จากการสำรวจติดตามพบพะยูนมีเชือกลอบปูพันอยู่ที่โคนหางและว่ายน้ำอยู่บริเวณหน้าเขตห้ามล่าฯ เจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือพะยูนโดยการกระโดดจับทุ่นและทำการปลดเชือกที่โคนหางโดยทันที จากการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่าเป็นพะยูน เพศเมีย อยู่ในช่วงวัยรุ่น ขนาดตัวประมาณ 2 เมตร มีเพรียงเกาะตามลำตัวเล็กน้อย มีบาดแผลที่โคนหางซึ่งเกิดจากการถูกเชือกพันรัด แผลบาดลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ขอบแผลเป็นเนื้อตายสมานกัน เนื่องจากเป็นแผลเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งพะยูนสามารถตอบสนองและทรงตัวว่ายน้ำได้ดี จึงพิจารณาปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ศวอล.ได้ประสานกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนในพื้นที่ในการเฝ้าระวังการเกยตื้นซ้ำของพะยูนตัวดังกล่าวต่อไป
พบเต่าทะเลเกยตื้น พื้นที่ จ.ภูเก็ต
พบเต่าตนุเกยตื้น บริเวณหน้าหาดโรงแรมอังสนา ลากูน่า ภูเก็ต ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
7 กันยายน 2567